บทบาท ของ อาริเอส มู

การปรากฏตัวครั้งแรก

มูไม่ได้ปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะโกลด์เซนต์ แต่ปรากฏในฐานะผู้ซ่อมแซมชุดคล็อธให้กับดราก้อน ชิริว และ เพกาซัส เซย่า ภายหลังจากที่ชิริวและเซย่าต่อสู้กันอย่างดุเดือด ทำให้ชุดคล็อธทั้งสองไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ ชิริวจึงได้เดินทางไปหา "มูแห่งจามิล" ซึ่งระหว่างทางได้พบอุปสรรคมากมายจนกระทั่งได้พบกับมูและกิกิ ซึ่งชิริวได้สละเลือดของตัวเองจนเกือบตายเพื่อชุบชีวิตคล็อธทั้งสอง หลังจากที่มูกล่าวว่าถ้าไม่ใช้เลือดจะชุบชีวิตคล็อธไม่ได้[2]

หลักจากที่มูได้ซ่อมแซมชุดคล็อธเปกาซัสและดราก้อนแล้ว มูยังได้เดินทางมาที่ภูเขาฟูจิ ซึ่งเป็นที่ต่อสู่ระหว่างพวกเซย่าและเหล่าแบล็คเซนต์ โดยได้ช่วยเหลือเซย่า ชิริว ซิกนัส เฮียวกะ และอันโดรเมดร้า ชุน ให้ออกจากภูเขาฟูจิด้วยการเทเลโพเทชั่น (teleportation) อีกด้วย [3]

ผู้ดูแลปราสาทแกะขาว

มูปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะโกลด์เซนต์ที่เทือกเขาโกโรโฮ ประเทศจีน เพื่อมาแจ้งข่าวให้กับท่านผู้เฒ่าว่าอาธีน่าได้ตัดสินใจไปแซงค์ทัวรี่เพื่อต่อสู่กับเคียวโกแล้ว[4]

หลังจากนั้น มูเดินทางไปยังแซงค์ทัวรี่ในฐานะผู้ดูแลปราสาทแกะขาว ปราสาทหลังที่ 1 จาก 12 ปราสาทแห่งแซงค์ทัวรี่ เมื่อเซย่า ชิริว เฮียวกะ และชุน เดินทางมาถึงปราสาทแกะขาว มูบอกให้ทุกคนถอดชุดคล็อธออก เนื่องจากพลังการซ่อมแซมตัวเองของชุดคล็อธไม่เพียงพอที่จะซ่อมชุดคล็อธที่พังขนาดนี้ได้ มูจึงได้ช่วยซ่อมแซมชุดคล็อธให้พวกเซย่า และได้เตือนถึงพลังและความสามารถของเหล่าโกลด์เซนต์ นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงความหมายที่แท้จริงของพลังคอสโมที่ทำให้เหล่าโกลด์เซนต์ไร้คู่ต่อสู้ นั่นคือ "เซเว่นเซนต์" (Seventh sense) [5]

ในระหว่างการต่อสู้ระหว่างเซย่ากับเจมินี่ ซากะนั้น เวอร์โก้ ชากะ ซึ่งติดอยู่ในช่องว่างของเวลาอวกาศได้ขอร้องให้มูช่วยเปิดทางออกจากช่องว่างนั้นเพื่อนำฟินิกส์ อิคคิกลับมายังแซงค์ทัวรี่ โดยมูได้ใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุช่วยเหลือให้ทั้ง 2 คน ออกมาจากช่องว่างของเวลาอวกาศไปยังปราสาทสาวพรหมจรรย์[1] และได้คุยกับเหล่าโกลด์เซนต์ที่ยังเหลืออยู่เกี่ยวกับตัวจริงของเคียวโก ซึ่งแท้ที่จริงก็คือ เจมินี่ ซากะ โกลด์เซนต์แห่งราศีเมถุนนั่นเอง [6]

ศึกเทพเจ้าโปเซดอน

ในระหว่างที่อาธีน่ายอมเสียสละตนเองเข้าไปอยู่ในเสาเมนเบรดวินเนอร์ซึ่งเป็นเสาหลักค้ำปราสาทโปเซดอน เพื่อรองรับฝนที่ตกอย่างหนักบนโลกให้มาตกที่เสาแห่งนี้แทน เนื่องจากอาธีนาต้องการชะลอไม่ให้น้ำท่วมโลกตามที่โปเซดอนหวังไว้ ในระหว่างนั้น มูได้ทำการซ่อมแซมชุดคล็อธให้กับพวกเซย่าอีกครั้ง หลังจากชุดคล็อธได้แหลกไปแล้วในการต่อสู้ในศึก 12 ปราสาท โดยเหล่าโกลเซนต์ได้เสียสละเลือดในการซ่อมแซมชุดคล็อธในครั้งนี้ [7]

อย่างไรก็ตาม มูได้บอกเลโอ ไอโอเรียว่า ผู้เฒ่าในฐานะผู้นำสูงสุดของเหล่าโกลด์เซนต์ห้ามไม่ให้เหล่าโกลด์เซนต์เคลื่อนไหวในศึกครั้งนี้ และห้ามออกจากแซงค์ทัวรี่เด็ดขาด และถ้าผู้ใดขัดขืนจะถูกสังหารในฐานะผู้ทรยศต่ออาธีน่า ดังนั้น เหล่าโกลด์เซนต์ที่เหลืออยู่จึงไม่มีใครสามารถออกจากแซงค์ทัวรี่ได้[8]

สงครามศักดิ์สิทธิ์-เทพเจ้าฮาเดส

ในระหว่างที่อยู่ในปราสาทแกะขาว มูสามารถสัมผัสถึงพลังคอสโมลึกลับซึ่งปรากฏกายต่อหน้ามูด้วยชุดคลุมสีดำ เมื่อมูเห็นหน้าของคนที่อยู่ภายใต้ชุดคลุมสีดำ มูได้คุกเข่าลงต่อชายผู้นั้น ซึ่งก็คือ อาริเอส ชิออน เคียวโกคนก่อนและอาจารย์ของมูนั่นเอง ชิออนได้ออกคำสั่งให้มูไปเด็ดศีรษะของอาธีน่าภายใน 12 ชั่วโมง แต่มูปฏิเสธ ในขณะนั้นเอง แคนเซอร์ เดธมาสก์และพิสเซส อโฟรดิเต้ ซึ่งฟื้นคืนชีพอีกครั้งด้วยพลังของฮาเดสเช่นเดียวกับชิออน ก็ปรากฏกายขึ้นโดยสวมชุดเซอร์พรีส ซึ่งเป็นเครื่องหมายของสเป็คเตอร์ ทั้ง 2 คนพยายามที่จะผ่านปราสาทแกะขาวให้ได้ แต่มูก็พยายามต่อสู้เพื่อปกป้องปราสาทไว้ ในที่สุด มูก็สามารถกำจัดเดธมาสก์และอโฟรดิเต้ลงด้วยท่าสตาร์ไลท์เอกซ์ทิงชั่น

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเพียงเดธมาสก์และอโฟรดิเต้เท่านั้นที่ต้องการผ่านปราสาทแกะขาวไปยังที่พำนักของอาธีน่า แล้วพวกของเจมินี่ ซากะ แคปริคอร์น ชูร่า และอควอเรียส คามิว ก็ปรากฏกายขึ้น แต่มูก็ไม่สามารถรับมือโกลด์เซนต์ทั้ง 3 คนได้เพียงลำพัง ในขณะที่ซากะกำลังจะลงมือสังหารมูนั้น ชิออนก็บอกว่าจะเป็นคนกำจัดมูเองโดยได้ตรึงร่างของมูไว้ไม่ให้ขยับได้ แล้วจึงสั่งให้พวกซากะรีบไปยังปราสาทต่อไป แต่ท่านผู้เฒ่าก็เข้ามาช่วยคลายการสะกดให้มู และบอกให้มูรีบตามพวกซากะไป และขัดขวางพวกสเป็คเตอร์ให้ได้

มู มิโร และไอโอเรีย ร่วมกันใช่ท่าอาธีน่าเอกซ์คลาเมชั่น

เมื่อมาถึงปราสาทวัวทอง มูพบว่าทอรัส อัลเดบารันได้ถูกสังหารแล้วโดยดีฟ นีโอเบ แห่งกลุ่มดาวจิอัน 1 ในสเป็คเตอร์ นีโอเบได้ใช้ท่าไอพิษมรณะโจมตีใส่มู แต่มูได้ใช้คริสตัลวอลล์สกัดเอาไว้ แล้วบอกนีโอเบว่าในขณะที่นีโอเบโจมตีอัลเดบารันด้วยท่าไอพิษมรณะนั้น อัลเดบารันก็โจมตีคืนด้วยเกรทฮอร์น ดังนั้น จึงเป็นการเสียเวลาเปล่า ๆ ที่จะต่อสู้กับคนที่ตายแล้ว มูจึงรีบเดินทางไปยังปราสาทต่อไป

ในขณะที่มูเดินทางมาถึงปราสาทปูยักษ์ มูได้เผชิญหน้ากับเหล่าสเป็คเตอร์ และโดนพลังไซโคไคเนซิสของปาปิญอง มิว แห่งดาวจิโยทำให้ขยับตัวไม่ได้ มูต่อสู้กับปาปิญองและสามารถเอาชนะได้ด้วยท่าสตาร์ไลท์เอกซ์ทิงชั่น

ณ ปราสาทสาวพรหมจรรย์ มูได้ห้ามไม่ให้ไอโอเรียเข้าไปยังสวนรังคู่ สถานที่ต่อสู้ระหว่างพวกซากะและชากะ เนื่องจากต้องการทำตามความปรารถนาของชากะที่ต้องการจะตายนั่นเอง หลังจากนั้น มู ไอโอเรีย และมิโร ได้ร่วมกันใช้ท่าอาธีน่าเอกซ์คลาเมชั่น (Athena Exclamation) ต่อสู้กับพวกซากะ คามิว และชูร่าที่ใช้ท่าเดียวกันนี้ต่อสู้กัน ต่อมา อาธีน่าได้มีคำสั่งให้พวกมูนำพวกซากะมาหาที่เทวสถานอาธีน่า

มู ไอโอเรีย และมิโร เดินทางมายังปราสาทฮาเดส และได้ต่อสู้กับราดาแมนทีส แต่ไม่สามารถสู้ได้เนื่องจากผู้ที่เข้ามาในปราสาทฮาเดสนั้นจะเหลือพลังเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น ดังนั้น มู ไอโอเรีย และมิโร จึงถูกราดาแมนทีสส่งไปยังยมโลกทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่

ในยมโลกมูได้รับพลังของอาธีน่าจึงคืนชีพอีกครั้ง และได้ร่วมมือกับเหล่าโกลด์เซนต์ทั้ง 11 คน ในการทำลายกำแพงวิปโยค เพื่อให้พวกเซย่าเดินทางไปช่วยอาธีนา ณ เอริเชี่ยน